การเสริมเเรงเเละการลงโทษ
การเสริมเเรง ( Reinforcer )
การเสริมเเรงเเบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. ตัวเสริมแรงทางบวก (Positive Reinforcer) หมายถึง สิ่งเร้าชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อได้รับหรือนำเข้ามาในสถานการณ์นั้นเเล้วจะมีผลให้เกิดความพึงพอใจเเละทำให้อัตราการตอบสนองเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะเข้มข้นขึ้น เช่น อาหาร คำชมเชย ฯลฯ
2. ตัวเสริมแรงลบ (Negative Reinforcer) หมายถึง สิ่งเร้าชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อตัดออกไปจากสถานการณ์นั้นแล้ว จะมีผลให้อัตราการตอบสนองเปลี่ยนไป ในลักษณะเข้มข้นขึ้น เช่น เสียงดัง แสงสว่างจ้า คำตำหนิ ร้อนหรือเย็นเกินไป ฯลฯ
Skinner's ให้ความสำคัญกับการเสริมเเรงอย่างยิ่งโดยได้เเยกวิธีการเสริมเเรงเป็น 2 วิธี ดังนี้
1.การให้การเสริมเเรงทุกครั้ง (Continuous Reinforcement) เป็นการให้การเสริมแรงทุกครั้งที่ผู้เรียนเเสดงพฤติกรรมที่ พึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ 2.การให้การเสริมเเรงเป็นครั้งคราว (Partial Reinforcement) เป็นการให้การเสริมแรงเป็นครั้งคราวโดยไม่ให้ทุกครั้งที่ผู้เรียนเเสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์ โดยเเยกการเสริมเเรง เป็นครั้งคราว ได้ดังนี้ 2.1 เสริมเเรงตามอัตราส่วนที่เเน่นอน 2.2 เสริมเเรงตามอัตราส่วนที่ไม่เเน่นอน 2.3 เสริงเเรงตามช่วงเวลาที่เเน่นอน 2.4 เสริงเเรงตามช่วงเวลาที่ไม่เเน่นอน
ตัวอย่างการให้การเสริมแรงตารางการเสริมแรง ลักษณะ ตัวอย่าง การเสริมแรงทุกครั้ง (Continuous) เป็นการเสริมแรงทุกครั้งที่
แสดงพฤติกรรม ทุกครั้งที่เปิดโทรทัศน์แล้ว
เห็นภาพ การเสริมแรงตามจำนวนครั้ง
ของการตอบสนองที่แน่นอน
(Fixed - Ratio) ให้การเสริมแรงโดยดูจาก
จำนวนครั้งของการตอบสนอง
ที่ถูกต้องด้วยอัตราที่แน่นอน การจ่ายค่าแรงตามจำนวน
ครั้งที่ขายของได้ การเสริมแรงตามจำนวนครั้ง
ของการตอบสนองที่ไม่แน่นอน
(Variable - Ratio) ให้การเสริมแรงตามจำนวนครั้ง
ของการตอบสนองแบบไม่แน่นอน การได้รับรางวัลจากเครื่อง
เล่นสล๊อตมาชีน การเสริมแรงความช่วงเวลาที่
แน่นอน (Fixed - Interval) ให้การเสริมแรงตามช่วงเวลาที่
กำหนด ทุก ๆ สัปดาห์ผู้สอนจะทำ
การทดสอบ การเสริมแรงตามช่วงเวลาที่
ไม่แน่นอน
(Variable - Interval) ให้การเสริมแรงตามระยะเวลา
ที่ไม่แน่นอน ผู้สอนสุ่มทดสอบตามช่วงเวลา
ที่ต้องการ
Skinner's ให้ความสำคัญกับการเสริมเเรงอย่างยิ่งโดยได้เเยกวิธีการเสริมเเรงเป็น 2 วิธี ดังนี้
1.การให้การเสริมเเรงทุกครั้ง (Continuous Reinforcement)
เป็นการให้การเสริมแรงทุกครั้งที่ผู้เรียนเเสดงพฤติกรรมที่ พึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้
2.การให้การเสริมเเรงเป็นครั้งคราว (Partial Reinforcement)
เป็นการให้การเสริมแรงเป็นครั้งคราวโดยไม่ให้ทุกครั้งที่ผู้เรียนเเสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์ โดยเเยกการเสริมเเรง เป็นครั้งคราว ได้ดังนี้
2.1 เสริมเเรงตามอัตราส่วนที่เเน่นอน
2.2 เสริมเเรงตามอัตราส่วนที่ไม่เเน่นอน
2.3 เสริงเเรงตามช่วงเวลาที่เเน่นอน
2.4 เสริงเเรงตามช่วงเวลาที่ไม่เเน่นอน
ตัวอย่างการให้การเสริมแรง
ตารางการเสริมแรง | ลักษณะ | ตัวอย่าง |
การเสริมแรงทุกครั้ง (Continuous) | เป็นการเสริมแรงทุกครั้งที่ แสดงพฤติกรรม | ทุกครั้งที่เปิดโทรทัศน์แล้ว เห็นภาพ |
การเสริมแรงตามจำนวนครั้ง ของการตอบสนองที่แน่นอน (Fixed - Ratio) | ให้การเสริมแรงโดยดูจาก จำนวนครั้งของการตอบสนอง ที่ถูกต้องด้วยอัตราที่แน่นอน | การจ่ายค่าแรงตามจำนวน ครั้งที่ขายของได้ |
การเสริมแรงตามจำนวนครั้ง ของการตอบสนองที่ไม่แน่นอน (Variable - Ratio) | ให้การเสริมแรงตามจำนวนครั้ง ของการตอบสนองแบบไม่แน่นอน | การได้รับรางวัลจากเครื่อง เล่นสล๊อตมาชีน |
การเสริมแรงความช่วงเวลาที่ แน่นอน (Fixed - Interval) | ให้การเสริมแรงตามช่วงเวลาที่ กำหนด | ทุก ๆ สัปดาห์ผู้สอนจะทำ การทดสอบ |
การเสริมแรงตามช่วงเวลาที่ ไม่แน่นอน (Variable - Interval) | ให้การเสริมแรงตามระยะเวลา ที่ไม่แน่นอน | ผู้สอนสุ่มทดสอบตามช่วงเวลา ที่ต้องการ |
ลักษณะของตัวเสริมแรง
1. Material Reinforcers คือ ตัวเสริมแรงที่เป็นวัตถุสิ่งของ เช่น มือถือ ขนม 2. Social Reinforcers เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม 2.1. Verbal เป็นคำพูด เช่น การชม (ต้องชมพฤติกรรมที่แสดงออก ไม่ใช่บุคลิกภาพ) 2.2. Nonverbal ภาษากาย เช่น กอด (การกอดเป็น The Best Social Reinforcers ซึ่งต้องใช้กับ Positive Behavior) 3.Activity Reinforcers เป็นการใช้กิจกรรมที่ชอบทำที่สุดมาเสริมแรงกิจกรรมที่อยากทำน้อยที่สุดโดยต้องทำ ตาม Premack Principle คือให้ทำสิ่งที่อยากทำน้อยที่สุดก่อนแล้วจึงให้ทำกิจกรรมที่ชอบที่สุด เช่นเด็กที่ชอบกิน Chocolate แต่ไม่ชอบเล่น Pinball ก็ให้เล่น Pinball ก่อนแล้วจึงให้กิน Chocolate 4.Token Economy จะเป็นตัวเสริมแรงได้เฉพาะเมื่อแลกเป็น Backup Reinforcers ได้ เช่น เงินธนบัตรก็เป็นแค่กระดาษใบหนึ่ง แต่ว่ามันใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ดังนั้นถ้ามันใช้ชำระหนี้ไม่ได้ก็เป็นแค่กระดาษใบหนึ่ง 5. Positive Feedback จับเฉพาะจุดบวก มองเฉพาะส่วนที่ดี เช่น บอกเด็กว่า หนูทำงานส่วนนี้ได้ดีมาก แต่ส่วนที่เหลือเอากลับไปแก้นะ 6. Intrinsic Reinforcers หรือตัวเสริมแรงภายใน เช่น การชื่นชมตัวเอง ไม่ต้องให้มีใครมาชม
1. Material Reinforcers
คือ ตัวเสริมแรงที่เป็นวัตถุสิ่งของ เช่น มือถือ ขนม
2. Social Reinforcers
เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม
2.1. Verbal เป็นคำพูด เช่น การชม (ต้องชมพฤติกรรมที่แสดงออก ไม่ใช่บุคลิกภาพ)
2.2. Nonverbal ภาษากาย เช่น กอด (การกอดเป็น The Best Social Reinforcers ซึ่งต้องใช้กับ Positive Behavior)
3.Activity Reinforcers
เป็นการใช้กิจกรรมที่ชอบทำที่สุดมาเสริมแรงกิจกรรมที่อยากทำน้อยที่สุดโดยต้องทำ ตาม Premack Principle
คือให้ทำสิ่งที่อยากทำน้อยที่สุดก่อนแล้วจึงให้ทำกิจกรรมที่ชอบที่สุด
เช่นเด็กที่ชอบกิน Chocolate แต่ไม่ชอบเล่น Pinball ก็ให้เล่น Pinball ก่อนแล้วจึงให้กิน Chocolate
4.Token Economy
จะเป็นตัวเสริมแรงได้เฉพาะเมื่อแลกเป็น Backup Reinforcers ได้ เช่น เงินธนบัตรก็เป็นแค่กระดาษใบหนึ่ง
แต่ว่ามันใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ดังนั้นถ้ามันใช้ชำระหนี้ไม่ได้ก็เป็นแค่กระดาษใบหนึ่ง
5. Positive Feedback
จับเฉพาะจุดบวก มองเฉพาะส่วนที่ดี เช่น บอกเด็กว่า หนูทำงานส่วนนี้ได้ดีมาก แต่ส่วนที่เหลือเอากลับไปแก้นะ
6. Intrinsic Reinforcers
หรือตัวเสริมแรงภายใน เช่น การชื่นชมตัวเอง ไม่ต้องให้มีใครมาชม
การลงโทษ (Punishment)
คือ การทำให้อัตราการตอบสนองหรือความถี่ของพฤติกรรมลดลง การลงโทษมี 2 ทางได้แก่
1. การลงโทษทางบวก (Positive Punishment)
เป็นการให้สิ่งเร้าที่บุคคลไม่พึงพอใจ มีผลทำให้บุคคลเเสดงพฤติกรรมลดลง
2. การลงโทษทางลบ (Negative Punishment)
เป็นการนำสิ่งเร้าที่บุคคลพึงพอใจหรือสิ่งเสริมเเรงออกไป มีผลทำให้บุคคลเเสดงพฤติกรรมลดลง
ตารางเปรียบเทียบการเสริมแรงและการลงโทษ ได้ดังนี้
ชนิด | ผล | ตัวอย่าง |
การเสริมแรงทางบวก | พฤติกรรมเพิ่มขึ้นเมื่อมีสิ่งเร้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสิ่งเร้าที่บุคคลนั้นต้องการ | ผู้เรียนที่ทำการบ้านส่งตรงเวลาแล้วได้รับคำชม จะทำการบ้านส่งตรงเวลาสม่ำเสมอ |
การเสริมแรงทางลบ | พฤติกรรมเพิ่มขึ้นเมื่อสิ่งเร้าที่ไม่เป็นที่พึงปรารถนาถูกทำให้ลดน้อยหรือหมดไป | ผู้เรียนที่ทำรายงานส่งตามกำหนด เวลาจะไม่เกิดความวิตกอีกต่อไป ดังนั้นในครั้งต่อไปเขาก็จะรีบทำ รายงานให้เสร็จตรงตามเวลา |
การลงโทษ 1 | พฤติกรรมลดลงเมื่อมีสิ่งเร้าโดยเฉพาะสิ่งที่เขาไม่พึงปรารถนาเกิดขึ้น | เมื่อถูกเพื่อน ๆ ว่า "โง่" เพราะตั้ง คำถามถามผู้สอน ผู้เรียนคนนั้น เลิกตั้งคำถามในชั้นเรียน |
การลงโทษ 2 | พฤติกรรมลดน้อยลง เมื่อนำสิ่งเร้าที่เขาพึงปรารถนาออกไป | ผู้เรียนที่ถูกหักคะแนนเพราะตอบ ข้อสอบในลักษณะที่แตกต่างจาก ครูสอน ในครั้งต่อไปเขาจะไม่ ตอบคำถามในลักษณะนั้นอีก |
การลงโทษ (Punishment) การเสริมแรงทางลบ และการลงโทษมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันและมักจะใช้แทนกันอยู่เสมอแต่การอธิบายของสกินเนอร์การเสริมแรงทางลบและการลงโทษต่างกันโดยเน้นว่าการลงโทษเป็นการระงับหรือหยุดยั้งพฤติกรรม
พฤติกรรม | การเสริมแรง | เพิ่มพฤติกรรม ก่อให้เกิดการกระทำ พฤติกรรมนั้นบ่อยขึ้น |
พฤติกรรม | การลงโทษ | ลดพฤติกรรม ก่อให้เกิดการกระทำ พฤติกรรมนั้นน้อยลง |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น